วันที่ 13 มี.ค. 2567 "นายชัยธวัช ตุลาธน" หัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า ขณะนี้เตรียมต่อสู้คดีตามกฎหมายและทำงานทุกวันให้ดีที่สุด ยืนยันจะต่อสู้อย่างเต็มที่ แต่ยอมรับว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้ทำให้ต่อสู้ได้ยากมากกว่าคดีอื่นๆ แต่ก็ต้องดูว่ามีเหตุผลอย่างไรที่คำวินิจฉัยจะถึงขั้น "ยุบพรรคก้าวไกล" ซึ่งปกติศาลต้องมีการไต่สวนอยู่แล้ว

กกต.ยันยื่นศาลรธน.ยุบพรรคก้าวไกล ยึดตามกม.ไม่ใช่กลั่นแกล้ง

เช็กชื่อ! กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ยุค “พิธา-ชัยธวัช”

กรณีที่มีคนวิเคราะห์ว่าศาลอาจไม่ไต่สวนเรื่องนี้เพราะนำคำวินิจฉัยเดิมมาพิจารณา นายชัยธวัช ระบุว่า อย่างน้อยที่สุดศาลต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องได้แก้ข้อกล่าวหา และเปิดโอกาสให้เสนอข้อเท็จจริงรวมถึงพยานผู้เชี่ยวชาญในการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่

ส่วนจะนำแนวทางที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบมาเป็นบทเรียนหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่มีการคุยกันถึงขนาดเกิดการยุบพรรคและคิดว่าบทเรียนที่สำคัญคือบทเรียนสำหรับสังคมไทยและผู้มีอำนาจมากกว่า ว่าการยุบพรรคการเมืองไม่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาทางการเมือง ซ้ำร้ายยังนำไปสู่การขยายความขัดแย้งทางการเมือง

นายชัยธวัช ยังกล่าวว่า แม้ว่าจะมีโอกาสรอดน้อย ก็ต้องสู้อย่างเต็มที่ ส่วนกระแสที่หากถูกยุบพรรคและ สส. ในพรรคอาจย้ายออกนั้น ตนมองว่า เป็นห่วงสังคมไทยมากกว่าที่อาจเข้าสู่สังคมวังวนแบบเดิมๆ ที่หาทางออกไม่เจอ หรืออาจถอยหลังกลับไป การยุบพรรคจากเหตุที่กล่าวหาว่าล้มล้างการปกครองและเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันนั้น ว่ากันตามความจริงแล้ว ไม่มีผลดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์แต่อย่างใด

เมื่อถามว่าขณะนี้เริ่มมี สส.ในพรรคไปพูดคุยกับฟากรัฐบาลหรือเข้าไปพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะมีการตรวจสอบหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ใช่หน้าที่ของพรรค เรื่องนี้ไม่สามารถมีใครไปบังคับใจกันได้ และอาจจะต้องไปตรวจสอบรัฐบาลและหากยังยอมรับวิธีการทำการเมืองแบบนี้ไม่ใช่ปัญหาของพรรคก้าวไกลแต่เป็นปัญหาของการเมืองแบบเดิมๆที่ควรหมดไปได้แล้ว

นอกจากนี้ นายชัยธวัช ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน และพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้ง 6 พรรค ยังยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 เพื่อชักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีโดยไม่มีการลงมติ

นายชัยธวัช กล่าวว่า เนื่องด้วยคณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้บริหารราชการแผ่นดิน มาเป็นเวลาหกเดือนแล้ว แต่ไม่ได้ดำเนินการหรือปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ไม่จริงใจ ไม่ตั้งใจ ขาดประสิทธิภาพหรือความชัดเจนแน่นอน ยังไม่มีการขับเคลื่อนนโยบายหรือแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม นโยบายเร่งด่วนสวนทางกับความเป็นจริง หากปล่อยให้รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินอย่างไร้ประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถไร้เป้าหมาย ไร้จริยธรรม และไร้วุฒิภาวะต่อไป จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟูสภาวะทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม

เปิดสถิติ อาร์เซน่อล ทะลุ 8 ทีม ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก สิ้นสุดการรอคอยรอบ 14 ปี

"เอฟ นนท์พัฒน์" เสียชีวิตอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งในวัย 47 ปี คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

 "ชัยธวัช" ยืนยันสู้เต็มที่ แม้มีโอกาสรอดน้อย คดียุบพรรคก้าวไกล

ทีมทนายความยัน ศาลไม่มีการออกหมายเรียก-หมายจับ “บิ๊กโจ๊ก”

By admin